ขีปนาวุธประยุกต์

หมายเหตุ: การใช้อาวุธปืนในประเทศไทยจำเป็นต้องได้รับการอนุญาต

คำเตือน

คุณสมบัติขีปนาวุธที่ใช้งานมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบโซลูชันแรงลมและระดับความสูงที่แม่นยำตามโปรไฟล์ปืนและกระสุนและการวัดสภาวะปัจจุบันเท่านั้น สภาวะอาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของคุณ การเปลี่ยนแปลงในสภาวะแวดล้อม เช่น ลมกรรโชกหรือลมที่ลดระดับลง อาจมีผลต่อความแม่นยำในการยิงของคุณ โซลูชันแรงลมและระดับความสูงเป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้นโดยขึ้นอยู่กับอินพุตของคุณที่ป้อนไปในคุณสมบัติ โปรดอ่านให้บ่อยครั้งและด้วยความระมัดระวัง และปล่อยให้การอ่านคงที่หลังจากสภาวะแวดล้อมเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ อนุญาตให้มีระยะปลอดภัยเสมอสำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาวะและข้อผิดพลาดในการอ่านอยู่เสมอ

โปรดทำความเข้าใจเป้าหมายของคุณและสิ่งที่อยู่ถัดไปจากเป้าหมายของคุณก่อนทำการยิงเสมอ การล้มเหลวในการคำนึงถึงสภาพแวดล้อมในการยิงของคุณอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตได้

คุณสมบัติขีปนาวุธที่ใช้งานมอบโซลูชันการเล็งเป้าที่ปรับแต่งเองสำหรับการยิงพิสัยไกลขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของปืนไรเฟิล คุณลักษณะกระสุน และสภาวะแวดล้อมทั้งหลายของคุณ คุณสามารถป้อนพารามิเตอร์รวมไปถึงลม อุณหภูมิ ความชื้น ระยะ และทิศทางการยิงได้

คุณสมบัตินี้มอบข้อมูลที่คุณต้องการในการยิงขีปนาวุธพิสัยไกล รวมไปถึงระดับความสูงค้าง แรงลม และเวลาที่กระสุนอยู่บนอากาศ นอกจากนี้ยังมีโมเดลการลากที่ปรับแต่งเองสำหรับประเภทกระสุนของคุณ ไปยัง appliedballisticsllc.com สำหรับข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัตินี้ คำอธิบายศัพท์ของขีปนาวุธที่ใช้งาน สำหรับคำอธิบายของคำและช่องข้อมูล

หมายเหตุ: คุณอาจจำเป็นต้องอัปเกรดตัวคำนวณขีปนาวุธในแอป Applied Ballistics Quantum เพื่อปลดล็อกคุณสมบัติทั้งหมดของ Applied Ballistics (แอป Applied Ballistics Quantum)

แอป Applied Ballistics Quantum

แอป Applied Ballistics Quantum ช่วยให้คุณจัดการโปรไฟล์ขีปนาวุธบนนาฬิกา tactix ของคุณหรืออัปเกรดตัวคำนวณขีปนาวุธหากจำเป็น คุณสามารถดาวน์โหลดแอป Applied Ballistics Quantum จากแอปสโตร์บนโทรศัพท์ของคุณ

ตัวเลือกขีปนาวุธที่ใช้งาน

จากหน้าปัดนาฬิกา กด เลือก Applied Ballistics และกด

Quick Edit: ตั้งระยะ ทิศทางการยิง และข้อมูลลมได้อย่างรวดเร็ว (การแก้ไขสภาวะการยิงอย่างรวดเร็ว)

Range Card: แสดงข้อมูลสำหรับระยะต่าง ๆ ตามพารามิเตอร์ที่ป้อนโดยผู้ใช้ คุณสามารถเปลี่ยนช่องข้อมูล (การปรับแต่งช่องข้อมูลการ์ดระยะ) แก้ไขการเพิ่มระยะ (การแก้ไขการเพิ่มระยะ) และตั้งระยะฐาน (การตั้งค่าระยะฐาน)

Target Card: อนุญาตให้คุณปรับแต่งสภาวะการยิงพิสัยไกลสำหรับเป้าหมายปัจจุบันของคุณ รวมไปถึงระยะ ระดับความสูง และและการปรับลม (การแก้ไขเป้าหมาย) คุณสามารถเปลี่ยนเป้าหมายที่เลือกและปรับแต่งสภาวะสำหรับเป้าหมายได้สูงสุด 10 เป้าหมาย (การเปลี่ยนเป้าหมาย)

Environment: ตั้งสภาพอากาศโดยรอบสำหรับสภาพแวดล้อมปัจจุบันของคุณ คุณสามารถป้อนค่าที่ปรับแต่งเอง ใช่ค่าความดันและละติจูดจากเซนเซอร์ภายในอุปกรณ์ หรือค่าจากเซนเซอร์ไร้สายที่เชื่อมต่อได้ (สิ่งแวดล้อม)

Profile: ตั้งลูกกระสุน ปืน และคุณลักษณะกล้องส่องสำหรับโปรไฟล์ปัจจุบันของคุณ (การแก้ไขชื่อโปรไฟล์) คุณสามารถเปลี่ยนโปรไฟล์ที่เลือกได้ (การเลือกโปรไฟล์อื่น) และเพิ่มโปรไฟล์เพิ่มเติม (การเพิ่มโปรไฟล์)

Change Fields: ปรับแต่งช่องข้อมูลบนหน้าข้อมูลโปรไฟล์ (การปรับแต่งหน้าข้อมูลโปรไฟล์)

Settings: กำหนดหน่วยการวัด ความแม่นยำของตำแหน่งทศนิยม ป้ายกำกับเป้าหมาย และตัวเลือกการควบคุมการยิงสำหรับการปรับลมและความสูง

การแก้ไขสภาวะการยิงอย่างรวดเร็ว

คุณสามารถแก้ไขระยะ ทิศทางการยิง และข้อมูลลม

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Quick Edit

ข้อแนะนำ: คุณสามารถกด หรือ เพื่อแก้ไขแต่ละค่า และกด เพื่อเลื่อนไปยังช่องข้อมูลถัดไป

  1. ตั้งค่า RNG ตามระยะเป้าหมาย
  2. ตั้งค่า DOF ตามทิศทางการยิงที่แท้จริงของคุณ (ไม่ว่าจะแบบแมนนวลหรือโดยการใช้เข็มทิศ)
  3. ตั้งค่า W 1 ตามความเร็วลมต่ำ
  4. ตั้งค่า W 2 ตามความเร็วลมสูง
  5. ตั้งค่า DIR ตามทิศทางลมที่พัดมา
  6. กด เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงของคุณ

การ์ดระยะ

การปรับแต่งช่องข้อมูลการ์ดระยะ

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Range Card
  3. กด > และเลือก Change Fields
  4. กด หรือ เพื่อเปลี่ยนช่อง
  5. กด เพื่อเลือกช่องเพื่อปรับแต่ง
  6. เลือกช่องเพื่อปรับแต่ง
  7. กด เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงของคุณ

การแก้ไขการเพิ่มระยะ

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Range Card
  3. กด และเลือก Range Increment
  4. ป้อนค่า

การตั้งค่าระยะฐาน

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Range Card
  3. กด และเลือก Base Range
  4. ป้อนค่า

การ์ดเป้าหมาย

การเพิ่มเป้าหมาย

คุณสามารถเพิ่มเป้าหมายได้สูงสุด 26 เป้าหมาย

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Target Card > Add

เป้าหมายใหม่ปรากฏที่ด้านล่างของรายการ

การแก้ไขเป้าหมาย

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Target Card
  3. เลือกเป้าหมาย
  4. เลือกตัวเลือกเพื่อแก้ไข

การเปลี่ยนเป้าหมาย

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Target Card
  3. เลือกเป้าหมาย
  4. เลือก Set as current

การตั้งค่าตำแหน่งเป้าหมายโดยใช้ GPS

  1. ขณะอยู่ที่ตำแหน่งเป้าหมาย กดปุ่ม ค้างไว้ แล้วเลือก Save Location
  2. รอระหว่างนาฬิกาหาตำแหน่งดาวเทียม
  3. บันทึกตำแหน่งเป้าหมาย
  4. ไปยังตำแหน่งการยิง
  5. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  6. เลือก Target Card
  7. เลือกเป้าหมาย
  8. เลือก Use Saved Location Data
  9. รอระหว่างนาฬิกาหาตำแหน่งดาวเทียม
  10. เลือกตำแหน่งเป้าหมาย

สิ่งแวดล้อม

การแก้ไขสภาพแวดล้อม

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Environment
  3. เลือกตัวเลือกเพื่อแก้ไข

เปิดใช้งานการอัปเดตอัตโนมัติ

คุณสามารถใช้คุณสมบัติการอัปเดตอัตโนมัติเพื่ออัปเดตละติจูดและค่าแรงดันโดยอัตโนมัติ เมื่อเชื่อมต่อกับเซนเซอร์ไร้สาย เช่น เซนเซอร์วัดอุณหภูมิหรือเครื่องวัดสภาพอากาศ ฟิลด์สิ่งแวดล้อมอื่น ๆ จะได้รับการอัปเดตด้วย (การจับคู่เซนเซอร์ไร้สายของคุณ) ค่าจะได้รับการอัปเดตทุกห้านาที

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Environment > Auto Update > On

โปรไฟล์

การเพิ่มโปรไฟล์

คุณสามารถเพิ่มไฟล์ .pro ที่มีข้อมูลโปรไฟล์โดยทำการสร้างโดยใช้แอป Applied Ballistics Quantum และส่งไฟล์ไปยังโฟลเดอร์ AB บนอุปกรณ์ คุณยังสามารถสร้างโปรไฟล์โดยใช้อุปกรณ์ Garmin ของคุณได้

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Profile
  3. เลือกตัวเลือก:
    • เพื่อสร้างโปรไฟล์ใหม่ ให้เลือก + Profile
    • เพื่อสร้างโปรไฟล์ใหม่โดยอ้างอิงจากโปรไฟล์ที่มีอยู่แล้ว ให้เลือกโปรไฟล์นั้น เลือก Copy แล้วใส่ชื่อโปรไฟล์ใหม่

การแก้ไขชื่อโปรไฟล์

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Profile
  3. เลือกโปรไฟล์
  4. หากจำเป็น เลือก Rename และป้อนชื่อ
  5. เลือก Properties
  6. เลือกตัวเลือก:

หมายเหตุ: ตัวเลือกบางอย่างจะแสดงขึ้นเมื่อคุณเปิดใช้งานการตั้งค่าขั้นสูง

  • เพื่อป้อนคุณสมบัติหัวกระสุน ให้เลือก Bullet Data แล้วเลือกตัวเลือก

เคล็ดลับ: คุณสามารถเลือก Bullet Library เพื่อป้อนคุณลักษณะกระสุนโดยอัตโนมัติจากฐานข้อมูลกระสุนในขีปนาวุธที่ใช้งาน หากคุณป้อนคุณสมบัติหัวกระสุนด้วยตนเอง คุณสามารถค้นหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของผู้ผลิตหัวกระสุน

  • เพื่อป้อนคุณสมบัติของปืน ให้เลือก Gun Data แล้วเลือกตัวเลือก
  • เพื่อป้อนคุณสมบัติของกล้องเล็ง ให้เลือก Scope แล้วเลือกตัวเลือก
  • เพื่อปรับเทียบความเร็วปากกระบอกปืนให้ได้โซลูชันที่แม่นยำยิ่งขึ้นในระยะซุปเปอร์โซนิกสำหรับอาวุธปืนของคุณ ให้เลือก Calibrate Muzzle Velocity เลือกตัวเลือก แล้วเลือก Apply
  • เพื่อปรับเทียบปัจจัยลากแบบกำหนดเอง ให้เลือก Calibrate Custom Drag Factor เลือกตัวเลือก แล้วเลือก Apply
  • เพื่อแก้ไขตารางอุณหภูมิความเร็วปากกระบอกปืน ให้เลือก MV Temp Table กด เลือก Edit แล้วเลือกค่าที่ต้องการแก้ไข

หมายเหตุ: หากจำเป็น คุณสามารถเลือก Clear MV-Temp เพื่อรีเซ็ตตารางอุณหภูมิความเร็วปากกระบอกปืนกลับไปเป็นค่าเริ่มต้นได้

  • เพื่อปรับเทียบดรอปสเกลแฟกเตอร์ให้มอบโซลูชันที่แม่นยำยิ่งขึ้นในหรือนอกเหนือระยะทรานโซนิกสำหรับอาวุธปืนของคุณ ให้เลือก Drop Scale Factor > Calibrate DSF เลือกตัวเลือก แล้วเลือก Apply

หมายเหตุ: Garmin แนะนำให้คุณปรับเทียบความเร็วปากกระบอกปืนก่อนการปรับเทียบดรอปสเกลแฟกเตอร์ หลังจากที่คุณปรับเทียบดรอปสเกลแฟกเตอร์แล้ว คุณสามารถเลือก View DSF Table เพื่อดูตารางดรอปสเกลแฟกเตอร์ หากจำเป็น คุณสามารถเลือก Clear DSF Table เพื่อรีเซ็ตตารางดรอปสเกลแฟกเตอร์กลับไปยังค่าเริ่มต้นได้

การลบโปรไฟล์

หมายเหตุ: คุณไม่สามารถลบโปรไฟล์ปัจจุบันของคุณได้

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Profile
  3. เลือกโปรไฟล์
  4. เลือก Delete

การเลือกโปรไฟล์อื่น

  1. จากหน้าแอป Applied Ballistics กด
  2. เลือก Profile
  3. เลือกโปรไฟล์
  4. เลือก Set as current

การปรับแต่งหน้าข้อมูลโปรไฟล์

  1. ในระหว่างกิจกรรมขีกนาวุธที่ใช้งาน กด เพื่อเลือกหน้าข้อมูลโปรไฟล์
  2. เลือก และเลือก Change Fields
  3. กด หรือ เพื่อเลื่อนดูช่องข้อมูล
  4. กด เพื่อเลือกช่องข้อมูลที่จะเปลี่ยน
  5. กด หรือ เพื่อเลื่อนดูช่องข้อมูล
  6. เลือกช่องเพื่อปรับแต่ง
  7. กด เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงของคุณ

คำอธิบายศัพท์ของขีปนาวุธที่ใช้งาน

แก้ไขช่องข้อมูลอย่างรวดเร็ว

DIR: ทิศทางที่ลมเข้ามา ยกตัวอย่างเช่น DIR 9:00 คือลมที่พัดมาจากซ้ายไปขวาของคุณ ช่องป้อนข้อมูล

DOF: ทิศทางการยิง ด้วยทิศเหนือเป็น 0 องศา และทิศตะวันออกเป็น 90 องศา ช่องอินพุต

Elevation: ส่วนแนวตั้งของโซลูชันการเล็งเป้า แสดงในนิ้ว มิลลิเรเดียน (mrad/mil) หรือ minute of angle (MOA)

RNG: ระยะทางไปยังเป้าหมาย แสดงในหน่วยหลาหรือเมตร ช่องอินพุต

W 1: ความเร็วลมที่ใช้ในโซลูชันการยิง แสดงในหน่วยไมล์ต่อชั่วโมง (mph) กิโลเมตรต่อชั่วโมง (km/h) หรือเมตรต่อวินาที (m/s) เป็นช่องป้อนข้อมูล

W 2: ความเร็วลมเพิ่มเติม (ไม่บังคับ) ที่ใช้ในโซลูชันการยิง แสดงในหน่วยไมล์ต่อชั่วโมง (mph) กิโลเมตรต่อชั่วโมง (km/h) หรือเมตรต่อวินาที (m/s) เป็นช่องป้อนข้อมูล

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้ความเร็วลมสองค่าเพื่อคำนวณสมการการปรับลมที่แสดงค่าต่ำสุดและค่าสูงสุด ซึ่งค่าปรับลมจริงที่ต้องใช้สำหรับการยิงควรอยู่ในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม การใช้ความเร็วลม W 1 และ W 2 พร้อมกัน ไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับความเร็วลมที่แตกต่างกันในระยะทางต่าง ๆ ระหว่างคุณกับเป้าหมาย

Windage 1: ส่วนแนวนอนของโซลูชันการเล็งเป้าตามความเร็วลม 1 และทิศทางลม แสดงในนิ้ว มิลลิเรเดียน (mrad/mil) หรือ minute of angle (MOA)

Windage 2: ส่วนแนวนอนของโซลูชันการเล็งเป้าตามความเร็วลม 2 และทิศทางลม แสดงในนิ้ว มิลลิเรเดียน (mrad/mil) หรือ minute of angle (MOA)

การปรับแต่งช่องข้อมูลการ์ดระยะ

Bullet Drop: การตกทั้งหมดที่กระสุนได้รับตามเส้นทางกระสุน แสดงเป็นนิ้วหรือเซนติเมตร

Elevation: ส่วนแนวตั้งของโซลูชันการเล็งเป้า แสดงในนิ้ว มิลลิเรเดียน (mrad/mil) หรือ minute of angle (MOA)

H. Cor. Effect: ผล Coriolis แนวนอน ผล Coriolis แนวนอนคือจำนวนของโซลูชันแรงลมที่มาจากผล Coriolis ซึ่งคำนวณโดยอุปกรณ์ แม้ว่าจะส่งผลน้อยหากคุณไม่ได้ยิงที่ระยะไกล

Lead: การแก้ไขในแนวนอนที่จำเป็นในการถูกเป้าหมายที่เคลื่อนที่ไปทางซ้ายหรือขวาด้วยความเร็วที่กำหนด

ข้อแนะนำ: เมื่อคุณป้อนความเร็วของเป้าหมายของคุณ อุปกรณ์จะพิจารณาแรงลมที่จำเป็นในค่าแรงลมทั้งหมด

Remaining Energy: พลังงานคงเหลือของกระสุนเมื่อกระทบเป้าหมาย แสดงหน่วยเป็นฟุต-แรงปอนด์ (ft. Lbf) หรือจูล (J)

Spin Drift: จำนวนของโซลูชันแรงลมที่มาจาก spin drift (gyroscopic drift) ยกตัวอย่างเช่น ในซีกโลกเหนือ กระสุนที่ยิงออกจากลำกล้องบิดขวาจะเบี่ยงไปทางขวาเล็กน้อยเสมอเมื่อเคลื่อนที่

Time of Flight: เวลากระสุนในอากาศซึ่งบ่งชี้เวลาที่ต้องการที่กระสุนจะถึงเป้าหมายในระยะที่กำหนด

V. Cor. Effect: ผล Coriolis แนวตั้ง ผล Coriolis แนวตั้งคือจำนวนของโซลูชันแรงลมที่มาจากผล Coriolis ซึ่งคำนวณโดยอุปกรณ์ แม้ว่าจะส่งผลน้อยหากคุณไม่ได้ยิงที่ระยะไกล

Velocity: ความเร็วกระสุนโดยประมาณเมื่อกระทบเป้าหมาย

Velocity Mach: ความเร็วกระสุนโดยประมาณเมื่อกระทบเป้าหมาย แสดงเป็นปัจจัยความเร็วมัค

Windage 1: ส่วนแนวนอนของโซลูชันการเล็งเป้าตามความเร็วลม 1 และทิศทางลม แสดงในนิ้ว มิลลิเรเดียน (mrad/mil) หรือ minute of angle (MOA)

Windage 2: ส่วนแนวนอนของโซลูชันการเล็งเป้าตามความเร็วลม 2 และทิศทางลม แสดงในนิ้ว มิลลิเรเดียน (mrad/mil) หรือ minute of angle (MOA)

ช่องข้อมูลการ์ดเป้าหมาย

Direction of Fire: ทิศทางการยิง ด้วยทิศเหนือเป็น 0 องศา และทิศตะวันออกเป็น 90 องศา ช่องอินพุต

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้เข็มทิศเพื่อตั้งค่านี้โดยหันหัวอุปกรณ์ไปในทิศทางการยิง

คุณสามารถใช้เข็มทิศเพื่อตั้งค่านี้โดยหันหัวอุปกรณ์ไปในทิศทางการยิง ค่าเข็มทิศปัจจุบันจะปรากฏในช่อง DOF คุณสามารถกด เพื่อใช้ค่านี้ได้

Inclination: มุมความเอียงของการยิง ค่าลบบ่งชี้การยิงลง ค่าบวกบ่งชี้การยิงขึ้น โซลูชันการยิงคูณส่วนแนวตั้งของโซลูชันโดยโคไซน์ของมุมเอียงเพื่อคำนวณโซลูชันที่ได้รับการปรับสำหรับการยิงขึ้นและลง ช่องอินพุต

Range: ระยะทางไปยังเป้าหมาย แสดงเป็นหลาหรือเมตร ช่องอินพุต

Speed: ความเร็วของเป้าหมายเคลื่อนที่ แสดงเป็นไมล์ต่อชั่วโมง (mph) หรือกิโลเมตรต่อชั่วโมง (km/h) หรือเมตรต่อวินาที (m/s) ค่าลบบ่งชี้เป้าหมายเคลื่อนที่ไปทางซ้าย ค่าบวกบ่งชี้เป้าหมายเคลื่อนที่ไปทางขวา ช่องอินพุต

ช่องข้อมูลสภาพแวดล้อม

Direction: ทิศทางที่ลมเข้ามา ยกตัวอย่างเช่น DIR 9:00 คือลมที่พัดมาจากซ้ายไปขวาของคุณ ช่องป้อนข้อมูล

Humidity: เปอร์เซ็นต์ของความชื้นในอากาศ ช่องอินพุต

Latitude: ตำแหน่งแนวนอนบนผิวโลก ค่าลบจะอยู่ต่ำกว่าเส้นศูนย์สูตร ค่าบวกจะอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร ค่านี้ใช้เพื่อคำนวณ Coriolis drift แนวนอนและแนวตั้ง ช่องอินพุต

ข้อแนะนำ: คุณสามารถเลือกตัวเลือก ใช้ตำแหน่งปัจจุบัน ได้เพื่อใช้คำแหน่ง GPS จากอุปกรณ์ของคุณ

หมายเหตุ: ละติจูดใช้สำหรับการคำนวณผล Coriolis เท่านั้น หากคุณกำลังยิงเป้าหมายในระยะน้อยกว่า 1,000 หลา ช่องอินพุตนี้เป็นทางเลือก

Pressure: ความดันบรรยากาศโดยรอบ (สเตชั่น) ความดันบรรยากาศโดยรอบไม่ได้ปรับเพื่อแสดงความดันที่ระดับน้ำทะเล (บารอเมตริก) ความดันบรรยากาศโดยรอบจำเป็นสำหรับโซลูชันการยิงขีปนาวุธ ช่องอินพุต

ข้อแนะนำ: คุณสามารถป้อนค่านี้ด้วยตนเองได้ หรือคุณสามารถเลือกตัวเลือก ใช้ความดันปัจจุบัน เพื่อใช้ค่าความดันจากเซนเซอร์ภายในอุปกรณ์ได้

Temperature: อุณหภูมิที่ตำแหน่งปัจจุบันของคุณ แสดงในหน่วยฟาเรนไฮต์ (F) หรือเซลเซียส (C) เป็นช่องป้อนข้อมูล

ข้อแนะนำ: คุณสามารถป้อนอุณหภูมิที่อ่านจากเซนเซอร์อุณหภูมิที่เชื่อมต่อ tempe™ ได้ด้วยตนเองหรือแหล่งอุณหภูมิอื่น ๆ ช่องข้อมูลนี้ไม่อัปเดตอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อกับเซนเซอร์อุณหภูมิ

Wind Direction Mode: กำหนดการตั้งค่าทิศทางลม (Direction) โดยเลือกให้สัมพันธ์กับทิศทางการยิงของคุณ (Relative to DOF) หรือสัมพันธ์กับทิศเหนือจริง (True Wind Dir)

หมายเหตุ: เมื่อคุณต้องยิงเป้าหมายหลายเป้าหมายที่มีทิศทางการยิงต่างกัน ตัวเลือก True Wind Dir จะมีประโยชน์ เนื่องจากคุณเพียงแค่ปรับ DOF โดยที่ทิศทางลมยังคงเดิม

Wind Speed 1: ความเร็วลมที่ใช้ในสมการการยิง แสดงในหน่วยไมล์ต่อชั่วโมง (mph) กิโลเมตรต่อชั่วโมง (km/h) หรือเมตรต่อวินาที (m/s) เป็นช่องป้อนข้อมูล

Wind Speed 2: ความเร็วลมเพิ่มเติม (ไม่บังคับ) ที่ใช้ในสมการการยิง แสดงในหน่วยไมล์ต่อชั่วโมง (mph) กิโลเมตรต่อชั่วโมง (km/h) หรือเมตรต่อวินาที (m/s) เป็นช่องป้อนข้อมูล

ข้อแนะนำ: คุณสามารถใช้ความเร็วลมสองตัวเพื่อคำนวณโซลูชันแรงลมที่มีค่าสูงและต่ำได้ แรงลมที่แท้จริงที่ใช้สำหรับการยิงควรอยู่ในช่วงนี้

ช่องข้อมูลโปรไฟล์ ข้อมูลกระสุน

Ballistic Coefficient: ค่าสัมประสิทธิ์ขีปนาวุธของผู้ผลิตสำหรับกระสุนของคุณ ช่องป้อนค่า

Diameter: เส้นผ่านศูนย์กลางกระสุนวัดแสดงเป็นนิ้วหรือเซนติเมตร ช่องอินพุต

หมายเหตุ: เส้นผ่านศูนย์กลางของกระสุนอาจเปลี่ยนแปลงไปตามชื่อทั่วไปของกระสุน ยกตัวอย่าง 300 Win Mag มีเส้นผ่านศูนย์กลาง .308 นิ้ว

Length: ความยาวของกระสุน แสดงเป็นนิ้วหรือเซนติเมตร ช่องอินพุต

Model: โมเดลเส้นโค้งมาตรฐาน G1 หรือ G7 สำหรับเส้นโค้งการลาก ช่องอินพุต

หมายเหตุ: กระสุนไรเฟิลพิสัยไกลส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับมาตรฐาน G7

Weight: น้ำหนักกระสุน แสดงเป็นเกรน(gr)หรือกรัม(g) ช่องอินพุต

ช่องข้อมูลโปรไฟล์ ข้อมูลปืน

Muzzle Velocity: ความเร็วกระสุนเมื่อออกจากปากกระบอกปืน แสดงเป็นฟุตต่อวินาที (f/s) หรือเมตรต่อวินาที (m/s) เป็นช่องป้อนข้อมูล

หมายเหตุ: ช่องข้อมูลนี้มีความจำเป็นสำหรับการคำนวณที่แม่นยำโดยโซลูชันการยิง หากคุณปรับเทียบความเร็วปากกระบอกปืน ช่องนี้อาจอัปเดตอัตโนมัติเพื่อโซลูชันการยิงที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น

Sight Height: ระยะจากแกนกลางของปากกระบอกปืนไรเฟิลไปยังการกลางของกล้องส่อง แสดงเป็นนิ้วหรือเซนติเมตร เป็นช่องป้อนข้อมูล

ข้อแนะนำ: คุณสามารถกำหนดค่านี้ได้อย่างง่ายดายโดยการวัดจาดหัวของโบลต์ไปยังกึ่งกลางของป้อมปืนลม และเพิ่มครึ่งหนึ่งของเส้นผ่านศูนย์กลางของโบลต์

Twist Direction: ทิศทางที่ร่องเกลียวของลำกล้องปืนหมุน ส่วนใหญ่ปืนไรเฟิลจะมีเกลียวหมุนขวา เป็นช่องป้อนข้อมูล

Twist Rate: ระยะทางที่ปืนไรเฟิลใช้เพื่อให้หมุนครบหนึ่งรอบ แสดงเป็นนิ้วหรือเซนติเมตร ผู้ผลิตปืนหรือกระบอกปืนมักมีการบิดปืนไรเฟิล เป็นช่องป้อนข้อมูล

Zero Range: ระยะที่ไรเฟิลถูกทำให้เป็นศูนย์ แสดงเป็นหลาหรือเมตร เป็นช่องป้อนข้อมูล

ช่องข้อมูลโปรไฟล์- กล้องส่อง

Scoe Units: หน่วยการวัดสำหรับกล้องส่องของคุณ แสดงในหน่วยนิ้ว มิลลิเรเดียน (mrad/mil) หรือมินิทออฟแองเกิล (MOA) เป็นช่องป้อนข้อมูล

Sight in Condition: สภาพแวดล้อมในขณะที่ตั้งศูนย์ปืน นี่เป็นการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมที่แนะนำเมื่อทำการตั้งศูนย์ปืนในระยะ 300 หลาและไกลกว่า เป็นช่องข้อมูลเปิดปิด

SSF Elevation: ตัวคูณเชิงเส้นที่อธิบายถึงมาตราส่วนแนวตั้ง กล้องส่องนั้นไม่สามารถติดตามเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกตัว ดังนั้นโซลูชันขีปนาวุธจำเป็นต้องทำการแก้ไขเพื่อปรับสเกลตามกล้องส่องไรเฟิลเฉพาะตัว ยกตัวอย่างเช่น หากปืนเคลื่อนไป 10 mil แต่การกระทบอยู่ที่ 9 mil สเกลการมองอยู่ที่ 0.9 ช่องอินพุต

SSF Windage: ตัวคูณเชิงเส้นที่อธิบายถึงมาตราส่วนแนวนอน กล้องส่องนั้นไม่สามารถติดตามเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกตัว ดังนั้นโซลูชันขีปนาวุธจำเป็นต้องทำการแก้ไขเพื่อปรับสเกลตามกล้องส่องไรเฟิลเฉพาะตัว ยกตัวอย่างเช่น หากปืนเคลื่อนไป 10 mil แต่การกระทบอยู่ที่ 9 mil สเกลการมองอยู่ที่ 0.9 ช่องอินพุต

Zero Height: การแก้ไขทางเลือกเพื่อส่งผลต่อระดับความสูงในช่วงศูนย์ สิ่งนี้มักใช้เมื่อทำการเพิ่มซับเพรสเซอร์หรือใช้โหลดซับโซนิก ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเพิ่มซับเพรสเซอร์และกระสุนของคุณกระทบเป้าหมายสูงกว่าที่คาดไว้ 1 นิ้ว ความสูงช่วงศูนย์ของคุณคือ 1 นิ้ว คุณต้องต้องให้เป็นศูนย์เมื่อคุณถอดซับเพรสเซอร์ออก ช่องอินพุต

Zero Humidity: ความชื้นในขณะที่ตั้งศูนย์ปืน นี่เป็นการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมที่แนะนำเมื่อทำการตั้งศูนย์ปืนในระยะ 300 หลาและไกลกว่า เป็นช่องป้อนข้อมูล

Zero Offset: การแก้ไขทางเลือกเพื่อส่งผลต่อแรงลมในช่วงศูนย์ สิ่งนี้มักใช้เมื่อทำการเพิ่มซับเพรสเซอร์หรือใช้โหลดซับโซนิก ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเพิ่มซับเพรสเซอร์และกระสุนของคุณกระทบเป้าหมายไปทางซ้ายกว่าที่คาดไว้ 1 นิ้ว การชดเชยช่วงศูนย์ของคุณคือ 1 นิ้ว คุณต้องต้องให้เป็นศูนย์เมื่อคุณถอดซับเพรสเซอร์ออก ช่องอินพุต

Zero Pressure: ความดันบรรยากาศในขณะที่ตั้งศูนย์ปืน นี่เป็นการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมที่แนะนำเมื่อทำการตั้งศูนย์ปืนในระยะ 300 หลาและไกลกว่า เป็นช่องป้อนข้อมูล

Zero Temperature: อุณหภูมิในขณะที่ตั้งศูนย์ปืน นี่เป็นการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมที่แนะนำเมื่อทำการตั้งศูนย์ปืนในระยะ 300 หลาและไกลกว่า เป็นช่องป้อนข้อมูล

ช่องข้อมูลโปรไฟล์ ปรับเทียบความเร็วปากกระบอกปื

Range: ระยะทางไปยังเป้าหมาย แสดงเป็นหลาหรือเมตร ช่องอินพุต

ข้อแนะนำ: คุณควรป้อนค่าให้ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กับระยะที่แนะนำไว้ในโซลูชันการยิง สิ่งนี้คือระยะที่กระสุนจะช้าลงไปที่ 1.2 มัคและเริ่มเข้าช่วงทรานโซนิก

True Drop: ระยะทางที่แท้จริงที่กระสุนตกในขณะที่อยู่กลางอากาศไปยังเป้าหมาย แสดงในมิลลิเรเดียน (mrad/mil) หรือ minute of angle (MOA) ช่องอินพุต

ช่องข้อมูลโปรไฟล์ ปรับเทียบแดร็กแฟกเตอร์ที่กำหนดเอง

Range: ระยะจากที่คุณกำลังทำการยิง ช่องอินพุต

เคล็ดลับ: ในกรณีส่วนใหญ่ แดร็กแฟกเตอร์แบบกำหนดเองที่ปรับเทียบแล้วไม่ควรเกินการแก้ไข 10%

True Drop: ระยะทางที่แท้จริงที่กระสุนตกเมื่อยิงที่ช่วงที่กำหนด แสดงเป็นมิลลิเรเดียน (mrad/mil) หรือ minute of angle (MOA) ช่องอินพุต

ช่องข้อมูลโปรไฟล์ ปรับเทียบดรอปสเกลแฟกเตอร์

Range: ระยะจากที่คุณกำลังทำการยิง ช่องอินพุต

ข้อแนะนำ: ระยะนี้ควรอยู่ภายใน 90% ของช่วงที่แนะนำในโซลูชันการยิง ค่าที่น้อยกว่า 80% ของช่วงที่แนะนำจะไม่ให้การปรับที่ถูกต้อง

True Drop: ระยะทางที่แท้จริงที่กระสุนตกเมื่อยิงที่ช่วงที่กำหนด แสดงเป็นมิลลิเรเดียน (mrad/mil) หรือ minute of angle (MOA) ช่องอินพุต

ช่องข้อมูลหน้าจอข้อมูลโปรไฟล์

Aero. Jump. Effect: จำนวนของโซลูชันระดับความสูงที่ส่งผลต่อการกระโดดแบบแอโรไดนามิก การกระโดดแบบแอโรไดนามิกการเบี่ยงเบนแนวดิ่งของกระสุนเนื่องจากลมขวาง การกระโดดแบบแอโรไดนามิกได้รับการคำนวณตามค่าความเร็วลม 1 หากไม่มีองค์ประกอบลมขวางหรือค่าลม ค่านี้จะเป็นศูนย์

Bullet Drop: การตกทั้งหมดที่กระสุนได้รับตามเส้นทางกระสุน แสดงเป็นนิ้ว

Cos. Incl. Ang: โคไซน์ของมุมเอียงไปยังเป้าหมาย

Elevation: ส่วนแนวตั้งของโซลูชันการเล็งเป้า แสดงในมิลลิเรเดียน (mil) หรือ minute of angle (MOA)

H. Cor. Effect: ผล Coriolis แนวนอน ผล Coriolis แนวนอนคือจำนวนของโซลูชันแรงลมที่มาจากผล Coriolis ซึ่งคำนวณโดยอุปกรณ์ แม้ว่าจะส่งผลน้อยหากคุณไม่ได้ยิงที่ระยะไกล

Lead: การแก้ไขในแนวนอนที่จำเป็นในการถูกเป้าหมายที่เคลื่อนที่ไปทางซ้ายหรือขวาด้วยความเร็วที่กำหนด

ข้อแนะนำ: เมื่อคุณป้อนความเร็วของเป้าหมายของคุณ อุปกรณ์จะพิจารณาแรงลมที่จำเป็นในค่าแรงลมทั้งหมด

Max. Ord.: แสดงเป็นนิ้วหรือเซนติเมตร ordinance สูงสุดคือความสูงที่มากที่สุดเหรือแกนปากกระบอกปืนที่กระสุนจะไปถึงตามเส้นทางการยิง

Max. Ord. Range: ระยะที่กระสุนไปถึง ordinance สูงสุด แสดงเป็นหลาหรือเมตร

Remaining Energy: พลังงานคงเหลือของกระสุนเมื่อกระทบเป้าหมาย แสดงหน่วยเป็นฟุต-แรงปอนด์ (ft. Lbf) หรือจูล (J)

Spin Drift: จำนวนของโซลูชันแรงลมที่มาจาก spin drift (gyroscopic drift) ยกตัวอย่างเช่น ในซีกโลกเหนือ กระสุนที่ยิงออกจากลำกล้องบิดขวาจะเบี่ยงไปทางขวาเล็กน้อยเสมอเมื่อเคลื่อนที่

Time of Flight: เวลากระสุนในอากาศซึ่งบ่งชี้เวลาที่ต้องการที่กระสุนจะถึงเป้าหมายในระยะที่กำหนด

V. Cor. Effect: ผล Coriolis แนวตั้ง ผล Coriolis แนวตั้งคือจำนวนของโซลูชันแรงลมที่มาจากผล Coriolis ซึ่งคำนวณโดยอุปกรณ์ แม้ว่าจะส่งผลน้อยหากคุณไม่ได้ยิงที่ระยะไกล

Velocity: ความเร็วกระสุนโดยประมาณเมื่อกระทบเป้าหมาย แสดงเป็นฟุตต่อวินาที (f/s) หรือเมตรต่อวินาที (m/s)

Velocity Mach: ความเร็วกระสุนโดยประมาณเมื่อกระทบเป้าหมาย แสดงเป็นปัจจัยความเร็วมัค

Windage 1: ส่วนแนวนอนของโซลูชันการเล็งเป้าตามความเร็วลม 1 และทิศทางลม แสดงในนิ้ว มิลลิเรเดียน (mrad/mil) หรือ minute of angle (MOA)

Windage 2: ส่วนแนวนอนของโซลูชันการเล็งเป้าตามความเร็วลม 2 และทิศทางลม แสดงในนิ้ว มิลลิเรเดียน (mrad/mil) หรือ minute of angle (MOA)