คุณสมบัติความปลอดภัยและการติดตามต่าง ๆ

คำเตือน

คุณสมบัติด้านความปลอดภัยและการติดตามเป็นคุณสมบัติเสริม ไม่ควรใช้เป็นวิธีหลักในการขอรับความช่วยเหลือฉุกเฉิน แอป Garmin Connect ไม่ติดต่อบริการฉุกเฉินในนามของคุณ

ข้อสังเกต

เพื่อใช้คุณสมบัติเหล่านี้ อุปกรณ์ Edge 540 ต้องมีการเปิดการทำงาน GPS และถูกเชื่อมต่อไปยังแอป Garmin Connect โดยการใช้เทคโนโลยี Bluetooth คุณสามารถป้อนรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินในบัญชี Garmin Connect ของคุณได้

อุปกรณ์ Edge 540 มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและการติดตามที่ต้องได้รับกาตั้งค่าด้วยแอป Garmin Connect

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยและการติดตาม ไปที่ Garmin.com/safety

ความช่วยเหลือ: ช่วยให้คุณส่งข้อความอัตโนมัติพร้อมชื่อของคุณ ลิงก์ LiveTrack และตำแหน่ง GPS (หากมี) ไปยังรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณได้

การตรวจจับเหตุการณ์: เมื่ออุปกรณ์ Edge 540 ตรวจจับหนึ่งเหตุการณ์ได้ระหว่างกิจกรรมกลางแจ้งบางอย่าง อุปกรณ์จะส่งหนึ่งข้อความอัตโนมัติ ลิงค์ LiveTrack และตำแหน่ง GPS ไปยังรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณ

LiveTrack: ช่วยให้เพื่อน ๆ และครอบครัวติดตามการแข่งและกิจกรรมการฝึกซ้อมของคุณในแบบเรียลไทม์ได้ คุณสามารถเชิญผู้ติดตามโดยการใช้อีเมลหรือโซเชียลมีเดีย เพื่อให้พวกเขาดูข้อมูลสดของคุณบนหน้าเว็บ

GroupTrack: ช่วยให้คุณคอยติดตามเพื่อน ๆ ของคุณโดยการใช้ LiveTrack โดยตรงบนหน้าจอและในแบบเรียลไทม์

การตรวจจับเหตุการณ์

คำเตือน

การตรวจจับเหตุการณ์เป็นคุณสมบัติเสริมที่มีเฉพาะในกิจกรรมกลางแจ้งบางอย่างเท่านั้น การตรวจจับเหตุการณ์ไม่ควรถูกพึ่งพาเป็นวิธีหลักเพื่อการรับความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน แอป Garmin Connect ไม่ติดต่อบริการฉุกเฉินในนามของคุณ

ข้อสังเกต

ก่อนที่คุณสามารถเปิดใช้งานการตรวจจับเหตุการณ์บนอุปกรณ์ของคุณได้ คุณต้องตั้งค่าข้อมูลผู้ติดต่อยามฉุกเฉินในแอป Garmin Connect ก่อน โทรศัพท์ที่ถูกจับคู่ของคุณต้องมีแพ็กเกจข้อมูล และอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายซึ่งมีข้อมูลให้บริการ ผู้ติดต่อยามฉุกเฉินของคุณต้องสามารถรับข้อความตัวอักษรได้ (อาจมีอัตราค่าส่งข้อความอักษรตามมาตรฐาน)

เมื่อหนึ่งเหตุการณ์ถูกตรวจจับได้โดยอุปกรณ์ Edge ของคุณพร้อม GPS เปิดใช้งานอยู่ แอป Garmin Connect สามารถส่งข้อความอักษรและอีเมลแบบอัตโนมัติพร้อมชื่อของคุณและตำแหน่ง GPS ไปยังผู้ติดต่อยามฉุกเฉินของคุณหากใช้ได้

ข้อความปรากฏบนอุปกรณ์ของคุณและโทรศัพท์ที่ถูกจับคู่อยู่โดยบ่งบอกว่าผู้ติดต่อของคุณจะได้รับข้อมูลหลังจากผ่านไปแล้ว 30 วินาที หากไม่ต้องการความช่วยเหลือ คุณสามารถยกเลิกข้อความฉุกเฉินแบบอัตโนมัติได้

ความช่วยเหลือ

คำเตือน

ความช่วยเหลือเป็นคุณสมบัติเสริมและไม่ควรใช้เป็นวิธีหลักเพื่อขอรับความช่วยเหลือฉุกเฉิน แอป Garmin Connect ไม่ติดต่อบริการฉุกเฉินในนามของคุณ

ข้อสังเกต

ก่อนที่คุณสามารถเปิดใช้งานคุณสมบัติการช่วยเหลือบนอุปกรณ์ของคุณได้ คุณต้องตั้งค่าข้อมูลผู้ติดต่อยามฉุกเฉินในแอป Garmin Connect ก่อน โทรศัพท์ที่ถูกจับคู่ของคุณต้องมีแพ็กเกจข้อมูล และอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายซึ่งมีข้อมูลให้บริการ ผู้ติดต่อยามฉุกเฉินของคุณต้องสามารถรับข้อความตัวอักษรได้ (อาจมีอัตราค่าส่งข้อความอักษรตามมาตรฐาน)

เมื่ออุปกรณ์ Edge ของคุณที่เปิดใช้งาน GPS ถูกเชื่อมต่อกับแอป Garmin Connect คุณสามารถส่งข้อความอัตโนมัติพร้อมชื่อของคุณและตำแหน่ง GPS หากมี ไปยังรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณได้

ข้อความปรากฏบนอุปกรณ์ของคุณและสมาร์ทโฟนที่ถูกจับคู่อยู่โดยบ่งบอกว่าผู้ติดต่อของคุณจะได้รับข้อมูลหลังจากผ่านไปแล้ว 30 วินาที หากไม่ต้องการความช่วยเหลือ คุณสามารถยกเลิกข้อความฉุกเฉินแบบอัตโนมัติได้

การเพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉิน

หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อฉุกเฉินใช้สำหรับคุณสมบัติความปลอดภัยและการติดตาม

  1. จากแอป Garmin Connect เลือก หรือ
  2. เลือก ความปลอดภัยและการติดตาม > คุณสมบัติความปลอดภัย > รายชื่อฉุกเฉิน > เพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉิน
  3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

ผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อคุณเพิ่มพวกเขาเป็นผู้ติดต่อฉุกเฉิน และสามารถยอมรับหรือปฏิเสธการร้องขอของคุณได้ หากผู้ติดต่อปฏิเสธ คุณต้องเลือกผู้ติดต่อฉุกเฉินอีกคนหนึ่ง

การดูรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณ

ก่อนที่คุณสามารถดูรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณบนอุปกรณ์ของคุณได้ คุณต้องติดตั้งข้อมูลนักปั่นและรายชื่อผู้ติดต่อยามฉุกเฉินในแอป Garmin Connect ก่อน

เลือก > ความปลอดภัยและการติดตาม > รายชื่อฉุกเฉิน

ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณปรากฏ

การขอความช่วยเหลือ

ข้อสังเกต

ก่อนที่คุณสามารถร้องขอการช่วยเหลือ คุณต้องเปิดใช้งาน GPS บนอุปกรณ์ Edge ของคุณและตั้งค่าข้อมูลผู้ติดต่อยามฉุกเฉินในแอป Garmin Connect ก่อน โทรศัพท์ที่ถูกจับคู่ของคุณต้องมีแพ็กเกจข้อมูล และอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายซึ่งมีข้อมูลให้บริการ ผู้ติดต่อยามฉุกเฉินของคุณต้องสามารถรับอีเมลหรือข้อความตัวอักษรได้ (อาจมีอัตราค่าส่งข้อความอักษรตามมาตรฐาน)

  1. กดค้าง นานห้าวินาทีเพื่อเปิดใช้งานคุณสมบัติความช่วยเหลือ

    อุปกรณ์ส่งเสียงเตือน และส่งข้อความหลังจากการนับถอยหลังห้าวินาทีเสร็จสมบูรณ์

    ข้อแนะนำ: คุณสามารถเลือก ก่อนที่การนับถอยหลังเสร็จสมบูรณ์เพื่อยกเลิกข้อความได้

  2. หากจำเป็น เลือก ส่ง เพื่อส่งข้อความทันที

การเปิดและปิดการตรวจจับเหตุการณ์

หมายเหตุ: โทรศัพท์ที่จับคู่ของคุณจะต้องติดตั้งด้วยแผนข้อมูลและอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายที่มีบริการส่งข้อมูล

  1. เลือก > ความปลอดภัยและการติดตาม > ตรวจจับเหตุการณ์
  2. เลือกโปรไฟล์กิจกรรมเพื่อเปิดใช้งานการตรวจจับเหตุการณ์

    หมายเหตุ: การตรวจจับเหตุการณ์ถูกเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นสำหรับบางกิจกรรมกลางแจ้ง ขึ้นอยู่กับสถาพพื้นผิวและสไตล์การปั่นของคุณ ผลบวกปลอมอาจเกิดขึ้นได้

การยกเลิกข้อความอัตโนมัติ

เมื่อเหตุการณ์ถูกตรวจจับได้โดยอุปกรณ์ Edge ของคุณพร้อม GPS เปิดใช้งานอยู่ แอป Garmin Connect Mobile สามารถส่งข้อความและอีเมลอัตโนมัติพร้อมชื่อของคุณและตำแหน่ง GPS ไปยังรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณ

เลือก ยกเลิก > ก่อนหมดเวลาการนับถอยหลัง 30 วินาที

การส่งการอัปเดตสถานะหลังเหตุการณ์

ก่อนส่งการอัปเดตสถานะไปยังผู้ติดต่อยามฉุกเฉินของคุณ อุปกรณ์ของคุณต้องตรวจจับเหตุการณ์และส่งข้อความฉุกเฉินแบบอัตโนมัติไปยังผู้ติดต่อยามฉุกเฉินของคุณก่อน

คุณสามารถส่งการอัปเดตสถานะไปยังรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณเพื่อแจ้งพวกเขาว่าคุณไม่ต้องการความช่วยเหลือ

จากหน้าสถานะ เลือก เหตุการณ์ถูกตรวจจับ > ฉันสบายดี

ข้อความถูกส่งไปยังผู้ติดต่อยามฉุกเฉินทั้งหมด

การเปิดอุปกรณ์ LiveTrack

ก่อนที่คุณจะสามารถเริ่มเซสชันการใช้อุปกรณ์ LiveTrack ได้, คุณต้องติดตั้งรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินก่อนในแอป Garmin Connect

  1. เลือก > ความปลอดภัยและการติดตาม > LiveTrack
  2. เลือกตัวเลือก:
    • เลือก เริ่มอัตโนมัติ เพื่อเริ่มเซสชัน LiveTrack ทุกครั้งที่คุณเริ่มกิจกรรมประเภทนี้
    • เลือก ชื่อ LiveTrack เพื่ออัปเดตชื่อของเซสชัน LiveTrack ของคุณ วันที่ปัจจุบันจะเป็นชื่อเริ่มต้น
    • เลือก ผู้รับ เพื่อดูผู้รับ
    • เลือก แชร์เส้นทาง หากคุณต้องการให้ผู้รับมองเห็นเส้นทางของคุณ
    • เลือก การส่งข้อความผู้ชม หากคุณต้องการอนุญาตให้ผู้รับทำการส่งข้อความให้คุณในระหว่างกิจกรรมการปั่นของคุณ (ส่งข้อความถึงผู้ชม)
    • เลือก ขยาย Live Track เพื่อขยายการดูเซสชัน LiveTrack เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
  3. เลือก เริ่ม LiveTrack

ผู้รับสามารถดูข้อมูลสดของคุณได้บนหน้าการติดตาม Garmin Connect

การเริ่มต้นเซสชัน GroupTrack

ก่อนที่คุณสามารถเริ่มเซสชัน GroupTrack ได้ คุณต้องมีโทรศัพท์ที่มีแอป Garmin Connect ที่จับคู่กับอุปกรณ์ของคุณ (การจับคู่โทรศัพท์)

ระหว่างการปั่น คุณสามารถเห็นนักปั่นต่าง ๆ ในเซสชัน Group Track ของคุณบนแผนที่ได้

  1. บนคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge เลือก > ปลอดภัยและติดตาม > GroupTrack เพื่อเปิดใช้งานการดูเพื่อน ๆ บนหน้าจอแผนที่
  2. จากแอป Garmin Connect เลือก หรือ
  3. เลือก ความปลอดภัยและการติดตาม > LiveTrack > > การตั้งค่า > GroupTrack > เพื่อนทั้งหมด
  4. เลือก เริ่ม LiveTrack
  5. บนคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge เลือก และออกไปปั่นจักรยาน
  6. เลื่อนไปยังแผนที่เพื่อดูเพื่อน ๆ ของคุณ

  7. เลื่อนไปยังรายชื่อ GroupTrack

    คุณสามารถเลือกหนึ่งนักปั่นจากรายการ และนักปั่นคนนั้นปรากฏอยู่ตรงกลางบนแผนที่

ข้อแนะนำสำหรับเซสชัน GroupTrack

คุณสมบัติ GroupTrack ช่วยให้คุณคอยติดตามนักปั่นอื่น ๆ ในกลุ่มของคุณโดยการใช้ LiveTrack โดยตรงบนหน้าจอ นักปั่นทั้งหมดในกลุ่มต้องเป็นเพื่อน ๆ ของคุณในบัญชี Garmin Connect ของคุณ

  • ปั่นกลางแจ้งด้วยการใช้ GPS
  • จับคู่อุปกรณ์ Edge 540 ของคุณกับโทรศัพท์ของคุณโดยการใช้เทคโนโลยี Bluetooth
  • ในแอป Garmin Connect เลือก หรือ และเลือก การเชื่อมต่อ เพื่ออัปเดตรายชื่อของนักปั่นสำหรับเซสชัน GroupTrack ของคุณ
  • ให้แน่ใจว่าเพื่อน ๆ ของคุณทั้งหมดจับคู่กับโทรศัพท์ของพวกเขา และเริ่มเซสชัน LiveTrack ในแอป Garmin Connect
  • ดูให้แน่ใจว่าเพื่อน ๆ ทั้งหมดของคุณอยู่ในระยะ (40 กม.หรือ 25 ไมล์)
  • ในระหว่างเซสชัน GroupTrack เลื่อนไปยังแผนที่เพื่อดูเพื่อน ๆ ของคุณ
  • หยุดการปั่นก่อนที่คุณพยายามดูข้อมูลตำแหน่งและทิศทางที่มุ่งหน้าสำหรับนักปั่นอื่น ๆ ในเซสชัน GroupTrack

การแชร์อีเว้นท์สด

การแชร์กิจกรรมสดทำให้คุณสามารถส่งข้อความถึงเพื่อนและครอบครัวในระหว่างกิจกรรม โดยให้ข้อมูลอัปเดตตามเวลาจริงรวมถึงเวลาสะสมและเวลารอบสุดท้าย ก่อนกิจกรรมคุณสามารถปรับแต่งรายชื่อผู้รับและเนื้อหาข้อความในแอป Garmin Connect ได้

การเปิดการแชร์อีเว้นท์สด

ก่อนคุณสามารถใช้การแชร์อีเว้นท์สด คุณต้องตั้งค่าคุณสมบัติ LiveTrack ในแอป Garmin Connect

หมายเหตุ: คุณสมบัติ LiveTrack สามารถใช้ได้เมื่ออุปกรณ์ เชื่อมต่อไปยังแอป Garmin Connect โดยใช้เทคโนโลยี Bluetooth กับโทรศัพท์ Andriod ที่รองรับ

  1. เปิดคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ของคุณ
  2. ในแอป Garmin Conncet Mobile จากเมนูการตั้งค่า เลือก ความปลอดภัยและการติดตาม > การแชร์อีเว้นท์สด
  3. เลือก อุปกรณ์ และเลือกคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ของคุณ
  4. เลือกสวิตช์เปิดปิดเพื่อเปิดใช้งาน Live Event Sharing
  5. เลือก เสร็จ
  6. เลือก ผู้รับ เพื่อเพิ่มคนจากรายการติดต่อของคุณ
  7. เลือก ตัวเลือกข้อความ เพื่อปรับแต่งทริกเกอร์ข้อความและตัวเลือก
  8. ไปข้างนอก และเลือกโปรไฟล์การปั่นจักรยาน GPS บนคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 540 ของคุณ

การแชร์อีเว้นท์สดเปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง

ส่งข้อความถึงผู้ชม

หมายเหตุ: โทรศัพท์ที่จับคู่ของคุณจะต้องติดตั้งด้วยแผนข้อมูลและอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายที่มีบริการส่งข้อมูล

การส่งข้อความแบบผู้ชมเป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้ผู้ติดตาม LiveTrack ส่งข้อความตัวอักษรในขณะกิจกรรมการปั่นของคุณ คุณสามารถตั้งค่าคุณสมบัตินี้ในการตั้งค่า LiveTrack ของแอป Garmin Connect

การบล็อกข้อความผู้ชม

หากคุณต้องการบล็อกข้อความผู้ชม Garmin แนะนำให้ปิดก่อนเริ่มทำกิจกรรม

เลือก > ความปลอดภัยและการติดตาม > LiveTrack > ส่งข้อความถึงผู้ชม

การตั้งการเตือนจักรยาน

คุณสามารถเปิดการเตือนจักรยานเมื่อคุณอยู่ไกลจากจักรยานของคุณ เช่น ในจุดพักระหว่างการปั่นทางไกล คุณสามารถควบคุมการเตือนจักรยานจากอุปกรณ์ของคุณหรือการตั้งค่าอุปกรณ์ในแอป Garmin Connect

  1. เลือก > ความปลอดภัยและการติดตาม > เตือนการปั่น
  2. สร้างหรืออัปเดตรหัสผ่านของคุณ

    เมื่อคุณปิดใช้งานการเตือนจักรยานจากอุปกรณ์ Edge ของคุณ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนให้ป้อนรหัสผ่าน

  3. กดค้าง และเลือกตั้งสัญญาณ Bike Alarm

หากอุปกรณ์ตรวจพบการเคลื่อนไหว จะส่งเสียงเตือนและส่งการแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อของคุณ

การเล่นการเตือนด้วยเสียงบนโทรศัพท์ของคุณ

ก่อนที่คุณสามารถตั้งค่าเสียงเตือนได้ คุณต้องมีโทรศัพท์พร้อมแอป Garmin Connect ที่จับคู่ไว้กับอุปกรณ์ Edge ของคุณก่อน

คุณสามารถตั้งค่าแอป Garmin Connect เพื่อเล่นการแจ้งสถานะที่สร้างแรงบันดาลใจบนโทรศัพท์ของคุณระหว่างการปั่นหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ เสียงเตือนรวมไปถึงจำนวน lap และเวลาของ lap การนำทาง กำลัง pace หรือความเร็ว และข้อมูลอัตราการเต้นหัวใจ ในระหว่างเล่นเสียงเตือน แอป Garmin Connect ปิดเสียงหลักของโทรศัพท์เพื่อเล่นการแจ้ง คุณสามารถปรับแต่งระดับเสียงได้บนแอป Garmin Connect

  1. จากแอป Garmin Connect เลือก หรือ
  2. เลือก อุปกรณ์ Garmin
  3. เลือกอุปกรณ์ของคุณ
  4. เลือก การเตือนด้วยเสียง