โฟกัสปริมาณการฝึกซ้อม

เพื่อเพิ่มสมรรถนะและฟิตเนสให้ได้มากที่สุด, การฝึกซ้อมควรแบ่งออกเป็นสามหมวดหมู่: แอโรบิกที่มีแรงกระแทกต่ำ, แอโรบิกที่มีแรงกระแทกสูง, และแอนแอโรบิก โฟกัสปริมาณการฝึกซ้อมแสดงให้คุณเห็นว่าการฝึกซ้อมของคุณในปัจจุบันอยู่ในแต่ละหมวดหมู่เท่าใดและให้เป้าหมายการฝึกซ้อมต่าง ๆ โฟกัสปริมาณการฝึกซ้อมต้องการอย่างน้อย 7 วันของการฝึกซ้อมเพื่อระบุว่าปริมาณการฝึกซ้อมของคุณต่ำ, เหมาะสม, หรือสูง หลังจาก 4 สัปดาห์ของประวัติการฝึกซ้อม, การประเมินปริมาณการฝึกซ้อมของคุณจะมีข้อมูลเป้าหมายโดยละเอียดมากขึ้นเพื่อช่วยให้คุณรักษาสมดุลกิจกรรมการฝึกซ้อมต่าง ๆ ของคุณ

ต่ำกว่าเป้าหมาย: ปริมาณการฝึกของคุณต่ำกว่าระดับที่เหมาะสมที่สุดในทุกหมวดหมู่ความเข้มข้น ลองเพิ่มระยะเวลาหรือความถี่ของเวิร์คเอ้าท์ของคุณ

แอโรบิกที่มีแรงกระแทกต่ำไม่เพียงพอ: ลองการเพิ่มกิจกรรมแอโรบิกที่มีแรงกระแทกต่ำให้มากขึ้นเพื่อให้การฟื้นตัวและความสมดุลสำหรับกิจกรรมที่มีความเข้มข้นสูงขึ้นของคุณ

แอโรบิกที่มีแรงกระแทกสูงไม่เพียงพอ: ลองการเพิ่มกิจกรรมแอโรบิกที่มีแรงกระแทกสูงเพื่อช่วยพัฒนา lactate threshold และ VO2 max. ของคุณเมื่อเวลาผ่านไป

แอนแอโรบิกไม่เพียงพอ: ลองการเพิ่มความเข้มข้นของกิจกรรมแอนแอโรบิกขึ้นเล็กน้อยเพื่อพัฒนาความเร็วและสมรรถนะทางแอนแอโรบิกของคุณเมื่อเวลาผ่านไป

สมดุล: ปริมาณการฝึกซ้อมของคุณสมดุลแล้วและให้ประโยชน์ด้านฟิตเนสที่ครบวงจรเมื่อคุณดำเนินการฝึกซ้อมต่อไป

โฟกัสแอโรบิกที่มีแรงกระแทกต่ำ: ปริมาณการฝึกซ้อมของคุณส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมแอโรบิกที่มีแรงกระแทกต่ำ โดยให้พื้นฐานที่มั่นคงและเตรียมคุณสำหรับสำหรับการเพิ่มเวิร์คเอ้าท์ที่เข้มข้นมากขึ้น

โฟกัสแอโรบิกที่มีแรงกระแทกสูง: ปริมาณการฝึกซ้อมของคุณส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมแอโรบิกที่มีแรงกระแทกสูง กิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยพัฒนา Lactate Threshold, VO2 max. และความอดทน

โฟกัสแอนแอโรบิก: ปริมาณการฝึกซ้อมของคุณส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมที่เข้มข้น โดยนำไปสู่การเพิ่มพูนฟิตเนสอย่างรวดเร็ว, แต่ก็ควรให้สมดุลกับกิจกรรมแอโรบิกที่มีแรงกระแทกต่ำด้วย

เหนือเป้าหมาย: ปริมาณการฝึกซ้อมของคุณสูงกว่าค่าที่เหมาะสมที่สุด, และคุณควรพิจารณาปรับระยะเวลาและความถี่ของเวิร์คเอ้าท์ของคุณให้ลดลง

เกี่ยวกับ Training Effect

Training Effect วัดผลกระทบของหนึ่งกิจกรรมที่มีต่อแอโรบิกและแอนแอโรบิกฟิตเนสของคุณ Training Effect รวบรวมข้อมูลระหว่างทำกิจกรรม ในขณะที่กิจกรรมดำเนินไป, ค่า Training Effect เพิ่มขึ้น

Training Effect ถูกกำหนดโดยข้อมูลโปรไฟล์ผู้ใช้และประวัติการฝึกซ้อมของคุณ, และอัตราการเต้นหัวใจ, ระยะเวลา, และความเข้มข้นของกิจกรรมของคุณ มีเจ็ดคำนิยามของ Training Effect ที่แตกต่างกันเพื่ออธิบายประโยชน์พื้นฐานของกิจกรรมของคุณ แต่ละคำนิยามถูกให้โค้ดสีไว้และสอดคล้องกับโฟกัสปริมาณการฝึกซ้อมของคุณ (โฟกัสปริมาณการฝึกซ้อม) แต่ละวลีที่ตอบกลับ, ตัวอย่างเช่น “ส่งผลกระทบอย่างสูงต่อ VO2 Max.” มีคำอธิบายที่สอดคล้องกันในรายละเอียดกิจกรรม Garmin Connect ของคุณ

Training Effect สำหรับแอโรบิกใช้อัตราการเต้นหัวใจของคุณเพื่อวัดว่าความเข้มข้นที่ถูกสะสมของการออกกำลังกายส่งผลต่อแอโรบิกฟิตเนสของคุณอย่างไร และแสดงหากเวิร์คเอาท์ส่งผลให้เกิดการคงไว้หรือพัฒนาประสิทธิภาพกับระดับฟิตเนสของคุณ ผลรวมของการผลาญออกซิเจนหลังการออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้น (EPOC) ของคุณที่ถูกสะสมระหว่างการออกกำลังกายได้ถูกกำหนดให้กับช่วงของค่าต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อระดับฟิตเนสและกิจวัตรการฝึกซ้อมของคุณ เวิร์คเอ้าท์อย่างสม่ำเสมอที่ความพยายามปานกลางหรือเวิร์คเอ้าท์ที่มี intervals ยาวขึ้น (>180 วินาที) มีผลกระทบในแง่บวกกับการเผาผลาญอาหารทางแอโรบิกของคุณ และส่งผลให้เกิดการพัฒนา Training Effect สำหรับแอโรบิกได้

Training Effect สำหรับแอนแอโรบิกใช้อัตราการเต้นหัวใจและความเร็ว (หรือ power) เพื่อกำหนดว่าเวิร์คเอ้าท์ส่งผลต่อความสามารถของคุณเพื่อแสดงออกที่ความเข้มข้นที่สูงมากอย่างไร คุณได้รับหนึ่งค่าโดยขึ้นกับผลของแอนแอโรบิกต่อ EPOC และประเภทของกิจกรรม intervals ที่ความเข้มข้นสูงที่ทำซ้ำ 10 ถึง 120 วินาทีส่งผลกระทบที่มีประโยชน์อย่างมากต่อความสามารถทางแอนแอโรบิกของคุณและส่งผลแก่ Training Effect สำหรับแอนแอโรบิกที่พัฒนาขึ้นได้

คุณสามารถเพิ่ม แอโรบิก Training Effect และ แอนแอโรบิก Training Effect เป็นช่องข้อมูลให้กับหนึ่งในหน้าจอการฝึกซ้อมของคุณเพื่อตรวจสอบตัวเลขของคุณตลอดกิจกรรม

เทคโนโลยี training effect จัดหาและสนับสนุนโดย Firstbeat Technologies Ltd. สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม, ไปที่ www.firstbeat.com