คุณสมบัติความปลอดภัยและการติดตามต่าง ๆ

คำเตือน

คุณสมบัติด้านความปลอดภัยและการติดตามเป็นคุณสมบัติเสริม ไม่ควรใช้เป็นวิธีหลักในการขอรับความช่วยเหลือฉุกเฉิน แอป Garmin Connect ไม่ติดต่อบริการฉุกเฉินในนามของคุณ

ข้อสังเกต

เพื่อใช้คุณสมบัติเหล่านี้ อุปกรณ์ Edge 1050 ต้องมีการเปิดการทำงาน GPS และถูกเชื่อมต่อไปยังแอป Garmin Connect โดยการใช้เทคโนโลยี Bluetooth คุณสามารถป้อนรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินในบัญชี Garmin Connect ของคุณได้

อุปกรณ์ Edge 1050 มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและการติดตามที่ต้องได้รับกาตั้งค่าด้วยแอป Garmin Connect

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยและการติดตาม ไปที่ Garmin.com/safety

ความช่วยเหลือ: ช่วยให้คุณส่งข้อความอัตโนมัติพร้อมชื่อของคุณ ลิงก์ LiveTrack และตำแหน่ง GPS (หากมี) ไปยังรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณได้

การตรวจจับเหตุการณ์: เมื่ออุปกรณ์ Edge 1050 ตรวจจับหนึ่งเหตุการณ์ได้ระหว่างกิจกรรมกลางแจ้งบางอย่าง อุปกรณ์ส่งหนึ่งข้อความอัตโนมัติ ลิงค์ LiveTrack และตำแหน่ง GPS ไปยังรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณ

LiveTrack: ช่วยให้เพื่อน ๆ และครอบครัวติดตามการแข่งและกิจกรรมการฝึกซ้อมของคุณในแบบเรียลไทม์ได้ คุณสามารถเชิญผู้ติดตามโดยการใช้อีเมลหรือโซเชียลมีเดีย เพื่อให้พวกเขาดูข้อมูลสดของคุณบนหน้าเว็บ

GroupRide: ช่วยให้คุณสร้างและเข้าถึงคอร์สที่แชร์ ข้อความกลุ่ม และข้อมูลตำแหน่งแบบถ่ายทอดสดกับนักปั่นคนอื่น ๆ

GroupTrack: ช่วยให้คุณคอยติดตามเพื่อน ๆ ของคุณโดยการใช้ LiveTrack โดยตรงบนหน้าจอและในแบบเรียลไทม์

การตรวจจับเหตุการณ์

คำเตือน

การตรวจจับเหตุการณ์เป็นคุณสมบัติเสริมที่มีเฉพาะในกิจกรรมกลางแจ้งบางอย่างเท่านั้น การตรวจจับเหตุการณ์ไม่ควรถูกพึ่งพาเป็นวิธีหลักเพื่อการรับความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน แอป Garmin Connect ไม่ติดต่อบริการฉุกเฉินในนามของคุณ

ข้อสังเกต

ก่อนที่คุณสามารถเปิดใช้งานการตรวจจับเหตุการณ์บนอุปกรณ์ของคุณได้, คุณต้องตั้งค่าข้อมูลผู้ติดต่อยามฉุกเฉินในแอป Garmin Connect ก่อน โทรศัพท์ที่ถูกจับคู่ของคุณต้องมีแพ็กเกจข้อมูล และอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายซึ่งมีข้อมูลให้บริการ ผู้ติดต่อยามฉุกเฉินของคุณต้องสามารถรับข้อความตัวอักษรได้ (อาจมีอัตราค่าส่งข้อความอักษรตามมาตรฐาน)

เมื่อหนึ่งเหตุการณ์ถูกตรวจจับได้โดยอุปกรณ์ Edge ของคุณพร้อม GPS เปิดใช้งานอยู่ แอป Garmin Connect สามารถส่งข้อความอักษรและอีเมลแบบอัตโนมัติพร้อมชื่อของคุณและตำแหน่ง GPS ไปยังผู้ติดต่อยามฉุกเฉินของคุณหากใช้ได้

ข้อความปรากฏบนอุปกรณ์ของคุณและโทรศัพท์ที่ถูกจับคู่อยู่โดยบ่งบอกว่าผู้ติดต่อของคุณจะได้รับข้อมูลหลังจากผ่านไปแล้ว 30 วินาที หากไม่ต้องการความช่วยเหลือ คุณสามารถยกเลิกข้อความฉุกเฉินแบบอัตโนมัติได้

การเปิดและปิดการตรวจจับเหตุการณ์

หมายเหตุ: โทรศัพท์ที่จับคู่ของคุณจะต้องติดตั้งด้วยแผนข้อมูลและอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายที่มีบริการส่งข้อมูล

  1. เลือก > ความปลอดภัย & การติดตาม > ตรวจจับเหตุการณ์
  2. เลือกโปรไฟล์กิจกรรมเพื่อเปิดใช้งานการตรวจจับเหตุการณ์

    หมายเหตุ: การตรวจจับเหตุการณ์เปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับบางกิจกรรมกลางแจ้ง ข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศและสไตล์การปั่นของคุณ

การช่วยเหลือ

คำเตือน

ความช่วยเหลือเป็นคุณสมบัติเสริมและไม่ควรใช้เป็นวิธีหลักเพื่อขอรับความช่วยเหลือฉุกเฉิน แอป Garmin Connect ไม่ติดต่อบริการฉุกเฉินในนามของคุณ

ข้อสังเกต

ก่อนที่คุณสามารถเปิดใช้งานคุณสมบัติช่วยเหลือบนอุปกรณ์ของคุณได้ คุณต้องตั้งค่าข้อมูลผู้ติดต่อยามฉุกเฉินในแอป Garmin Connect ก่อน โทรศัพท์ที่ถูกจับคู่ของคุณต้องมีแพ็กเกจข้อมูล และอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายซึ่งมีข้อมูลให้บริการ ผู้ติดต่อยามฉุกเฉินของคุณต้องสามารถรับข้อความตัวอักษรได้ (อาจมีอัตราค่าส่งข้อความอักษรตามมาตรฐาน)

เมื่ออุปกรณ์ Edge ของคุณที่เปิดใช้งาน GPS ถูกเชื่อมต่อกับแอป Garmin Connect คุณสามารถส่งหนึ่งข้อความอัตโนมัติพร้อมชื่อของคุณและตำแหน่ง GPS ไปยังรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณได้หากสามารถใช้ได้

ข้อความปรากฏบนอุปกรณ์ของคุณและสมาร์ทโฟนที่ถูกจับคู่อยู่โดยบ่งบอกว่าผู้ติดต่อของคุณจะได้รับข้อมูลหลังจากผ่านไปแล้ว 30 วินาที หากไม่ต้องการความช่วยเหลือ คุณสามารถยกเลิกข้อความฉุกเฉินแบบอัตโนมัติได้

การขอความช่วยเหลือ

ข้อสังเกต

ก่อนที่คุณสามารถร้องขอการช่วยเหลือ คุณต้องเปิดใช้งาน GPS บนอุปกรณ์ Edge ของคุณและตั้งค่าข้อมูลการติดต่อฉุกเฉินในแอป Garmin Connect ก่อน โทรศัพท์ที่ถูกจับคู่ของคุณต้องมีแพ็กเกจข้อมูล และอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายซึ่งมีข้อมูลให้บริการ ผู้ติดต่อยามฉุกเฉินของคุณต้องสามารถรับข้อความตัวอักษรได้ (อาจมีอัตราค่าส่งข้อความอักษรตามมาตรฐาน)

  1. กดค้าง นานห้าวินาทีเพื่อเปิดใช้งานคุณสมบัติความช่วยเหลือ

    อุปกรณ์ส่งเสียงเตือน และส่งข้อความหลังจากการนับถอยหลังห้าวินาทีเสร็จสมบูรณ์

    ข้อแนะนำ: คุณสามารถเลือก ก่อนที่การนับถอยหลังเสร็จสมบูรณ์เพื่อยกเลิกข้อความได้

  2. หากจำเป็น เลือก ส่ง เพื่อส่งข้อความทันที

การเพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉิน

หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อฉุกเฉินใช้สำหรับคุณสมบัติความปลอดภัยและการติดตาม

  1. จากแอป Garmin Connect เลือก
  2. เลือก ความปลอดภัย & การติดตาม > คุณสมบัติความปลอดภัย > รายชื่อฉุกเฉิน > เพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉิน
  3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

ผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อคุณเพิ่มพวกเขาเป็นผู้ติดต่อฉุกเฉิน และสามารถยอมรับหรือปฏิเสธการร้องขอของคุณได้ หากผู้ติดต่อปฏิเสธ คุณต้องเลือกผู้ติดต่อฉุกเฉินอีกคนหนึ่ง

การดูรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณ

ก่อนที่คุณสามารถดูรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณบนอุปกรณ์ของคุณได้ คุณต้องติดตั้งข้อมูลนักปั่นและรายชื่อผู้ติดต่อยามฉุกเฉินในแอป Garmin Connect ก่อน

เลือก > ความปลอดภัยและการติดตาม > รายชื่อฉุกเฉิน

ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณปรากฏ

การยกเลิกข้อความอัตโนมัติ

เมื่อตรวจพบเหตุการณ์โดยอุปกรณ์ของคุณ คุณสามารถยกเลิกข้อความฉุกเฉินอัตโนมัติบนอุปกรณ์หรือโทรศัพท์ที่จับคู่ก่อนที่ส่งไปยังรายชื่อติดต่อฉุกเฉินของคุณ

ก่อนที่จะจบการนับถอยหลัง 30 วินาที กดค้าง กดค้างไว้เพื่อยกเลิก

การส่งการอัปเดตสถานะหลังเหตุการณ์

ก่อนส่งการอัปเดตสถานะไปยังผู้ติดต่อยามฉุกเฉินของคุณ อุปกรณ์ของคุณต้องตรวจจับเหตุการณ์และส่งข้อความฉุกเฉินแบบอัตโนมัติไปยังผู้ติดต่อยามฉุกเฉินของคุณก่อน

คุณสามารถส่งการอัปเดตสถานะไปยังรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินของคุณเพื่อแจ้งพวกเขาว่าคุณไม่ต้องการความช่วยเหลือ

  1. ปัดลงจากด้านบนของหน้าจอ และปัดซ้ายหรือขวาเพื่อดูวิจิทการควบคุม
  2. เลือก การตรวจจับเหตุการณ์ > ฉันสบายดี

    ข้อความถูกส่งไปยังผู้ติดต่อยามฉุกเฉินทั้งหมด

LiveTrack

ข้อสังเกต

เป็นความรับผิดชอบของคุณในการใช้วิจารณญาณในการแชร์ข้อมูลตำแหน่งกับบุคคลอื่น โปรดทำให้แน่ใจเสมอว่าคุณตระหนักและสบายใจต่อนักปั่นที่คุณแชร์ข้อมูลตำแหน่งด้วย

คุณสมบัติ LiveTrack ช่วยให้คุณแชร์กิจกรรมการปั่นพร้อมกับรายชื่อติดต่อจากโทรศัพท์และบัญชีโซเชียลมีเดียของคุณ ในขณะที่คุณกำลังแชร์ ผู้ดูสามารถติดตามตำแหน่งปัจจุบันของคุณและดูข้อมูลแบบสดได้บนเว็บเพจแบบเรียลไทม์

เพื่อใช้คุณสมบัติเหล่านี้ อุปกรณ์ Edge 1050 ต้องมีการเปิดการทำงาน GPS และถูกเชื่อมต่อไปยังแอป Garmin Connect โดยการใช้เทคโนโลยี Bluetooth คุณ

การเปิดอุปกรณ์ LiveTrack

ก่อนที่คุณจะสามารถเริ่มเซสชันการใช้อุปกรณ์ LiveTrack ได้ คุณต้องติดตั้งรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินก่อนในแอป Garmin Connect

  1. เลือก > ความปลอดภัยและการติดตาม > LiveTrack
  2. เลือกตัวเลือก:
    • เลือก เริ่มอัตโนมัติ เพื่อเริ่มเซสชัน LiveTrack ทุกครั้งที่คุณเริ่มกิจกรรมประเภทนี้
    • เลือก ชื่อ LiveTrack เพื่ออัปเดตชื่อของเซสชัน LiveTrack วันที่ปัจจุบันจะเป็นชื่อเริ่มต้น
    • เลือก ผู้รับ เพื่อดูผู้รับ
    • เลือก แชร์คอร์ส หากคุณต้องการให้ผู้รับมองเห็นคอร์สของคุณ
    • เลือก ส่งข้อความถึงผู้ชม หากคุณต้องการอนุญาตให้ผู้รับส่งข้อความมาหาคุณในระหว่างกิจกรรมการปั่น (ส่งข้อความถึงผู้ชม)
    • เลือก ขยาย LiveTrack เพื่อขยายการดูเซสชัน LiveTrack เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
  3. เลือก เริ่ม LiveTrack

ผู้รับสามารถดูข้อมูลสดของคุณได้บนหน้าการติดตาม Garmin Connect

การเริ่มต้นเซสชัน GroupTrack

ก่อนที่คุณสามารถเริ่มเซสชั่น GroupTrack ได้ คุณต้องมีโทรศัพท์พร้อมแอป Garmin Connect Mobile ที่ถูกจับคู่กับอุปกรณ์ของคุณก่อน (การจับคู่โทรศัพท์)

หมายเหตุ: คุณสมบัตินี้จำเป็นสำหรับการปั่นแบบกลุ่มที่มี Edge 1030, 830, 530, และคอมพิวเตอร์จักรยานรุ่นก่อนหน้า

สำหรับ Edge 1040, 840, 540 และคอมพิวเตอร์จักรยานรุ่นหลัง ให้ใช้คุณสมบัติ GroupRide (การเข้าร่วมเซสชัน GroupRide)

ระหว่างการปั่น คุณสามารถเห็นนักปั่นต่าง ๆ ในเซสชัน GroupTrack ของคุณบนแผนที่ได้

  1. บนคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge เลือก > ความปลอดภัย & การติดตาม > GroupTrack เพื่อดูการเชื่อมต่อต่าง ๆ บนหน้าจอแผนที่
  2. จากแอป Garmin Connect เลือก หรือ
  3. เลือก ความปลอดภัย & การติดตาม > LiveTrack > > การตั้งค่า > GroupTrack > เพื่อนทั้งหมด
  4. เลือก เริ่ม LiveTrack
  5. บนคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge กด และออกไปปั่นจักรยาน
  6. เลื่อนไปยังแผนที่เพื่อดูเพื่อน ๆ ของคุณ

    คุณสามารถแตะไอคอนบนแผนที่เพื่อดูข้อมูลตำแหน่งและทิศทางที่มุ่งหน้าไปสำหรับนักปั่นอื่น ๆ ในเซสชัน GroupTrack

  7. เลื่อนไปยังรายชื่อ GroupTrack

    คุณสามารถเลือกนักปั่นจากรายการ และนักปั่นคนนั้นปรากฏอยู่ตรงกลางบนแผนที่

ข้อแนะนำสำหรับเซสชัน GroupTrack

คุณสมบัติ GroupTrack ช่วยให้คุณคอยติดตามนักปั่นอื่น ๆ ในกลุ่มของคุณโดยการใช้ LiveTrack โดยตรงบนหน้าจอ นักปั่นทั้งหมดในกลุ่มต้องเป็นเพื่อน ๆ ของคุณในบัญชี Garmin Connect ของคุณ

  • ปั่นกลางแจ้งด้วยการใช้ GPS
  • จับคู่อุปกรณ์ Edge 1050 ของคุณกับโทรศัพท์ของคุณโดยการใช้เทคโนโลยี Bluetooth
  • ในแอป Garmin Connect เลือก หรือ และเลือก การเชื่อมต่อ เพื่ออัปเดตรายชื่อของเพื่อน ๆ สำหรับเซสชัน GroupTrack ของคุณ
  • ให้แน่ใจว่าเพื่อน ๆ ของคุณทั้งหมดจับคู่กับโทรศัพท์ของพวกเขา และเริ่มเซสชัน LiveTrack ในแอป Garmin Connect
  • ดูให้แน่ใจว่าเพื่อน ๆ ทั้งหมดของคุณอยู่ในระยะ (40 กม.หรือ 25 ไมล์)
  • ในระหว่างเซสชัน GroupTrack เลื่อนไปยังแผนที่เพื่อดูเพื่อน ๆ ของคุณ
  • หยุดการปั่นก่อนที่คุณพยายามดูข้อมูลตำแหน่งและทิศทางที่มุ่งหน้าสำหรับนักปั่นอื่น ๆ ในเซสชัน GroupTrack

GroupRide

คำเตือน

ในขณะปั่น โปรดใส่ใจสภาพแวดล้อมรอบตัวเสมอ และปั่นจักรยานอย่างปลอดภัย การไม่ปฏิบัติตามอาจส่งผลให้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตได้

ข้อสังเกต

เป็นความรับผิดชอบของคุณในการใช้วิจารณญาณในการแชร์ข้อมูลตำแหน่งกับบุคคลอื่น โปรดทำให้แน่ใจเสมอว่าคุณตระหนักและสบายใจต่อนักปั่นที่คุณแชร์ข้อมูลตำแหน่งด้วย

ด้วยคุณสมบัติ GroupRide บนคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ของคุณ คุณสามารถสร้างและเข้าถึงคอร์สที่แชร์ ข้อความกลุ่ม และข้อมูลตำแหน่งแบบถ่ายทอดสดได้กับนักปั่นคนอื่น ๆ ที่มีอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันได้

การเริ่มต้นเซสชัน GroupRide

ก่อนที่คุณสามารถเริ่มเซสชัน GroupRide ได้ คุณต้องมีโทรศัพท์พร้อมแอป Garmin Connect ที่ถูกจับคู่กับอุปกรณ์ของคุณก่อน (การจับคู่โทรศัพท์) เมื่อเตือน คุณต้องตกลงในการแชร์ตำแหน่งแบบถ่ายทอดสดกับนักปั่นคนอื่น ๆ

  1. เลือกภาพรวม GroupRide
  2. เลือก
  3. เลือก ชื่อ วันที่ หรือเ เวลาเริ่มต้น เพื่อแก้ไขข้อมูล
  4. เลือก เพิ่มคอร์ส เพื่อแชร์คอร์สกับนักปั่นคนอื่น ๆ

    คุณสามารถเลือกจากคอร์สที่บันทึกไว้ หรือคุณสามารถเลือก เพื่อสร้างคอร์สใหม่ (คอร์ส)

  5. เลือก การแข่งขัน เพื่อแข่งกับนักปั่นคนอื่น ๆ เพื่ออันดับและรางวัล
  6. เลือก สร้างรหัส

    คอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ของคุณสร้างรหัสที่คุณสามารถส่งไปให้นักปั่นคนอื่น ๆ ได้

  7. เลือก > แบ่งปันรหัส >
  8. เปิดแอป Garmin Connect และเลือก ดูรหัส > แชร์
  9. เลือกวิธีการในการแชร์รหัสกับนักปั่นคนอื่น ๆ

    แอป Garmin Connect แชร์รหัส GroupRide กับรายชื่อติดต่อของคุณ

  10. บนคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge เลือก เริ่มการแชร์ตำแหน่ง
  11. กด และออกไปปั่นจักรยาน

    หน้าจอข้อมูล GroupRide เพิ่มไปยังหน้าจอข้อมูลสำหรับโปรไฟล์ที่ใช้งาน

  12. เลือกนักปั่นจากหน้าจอข้อมูล GroupRide เพื่อดูตำแหน่งของพวกเขาบนแผนที่ หรือเลื่อนไปยังแผนที่เพื่อดูนักปั่นทั้งหมด (สถานะแผนที่ GroupRide)

คุณสามารถแตะไอคอนบนแผนที่เพื่อดูข้อมูลตำแหน่ง ทิศทางที่มุ่งหน้า และสถานะสำหรับนักปั่นอื่น ๆ ในระหว่างเซสชั่น GroupRide

การเข้าร่วมเซสชัน GroupRide

คุณสามารถเข้าร่วมเซสชัน GroupRide บนคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ของคุณเมื่อรหัส GroupRide ถูกแชร์กับคุณ คุณสามารถป้อนรหัสก่อนการเริ่มการปั่น

  1. เลื่อนไปยังภาพรวม GroupRide

    ข้อแนะนำ: คุณสามารถเพิ่มภาพรวม GroupRide ไปยังลูปภาพรวมของคุณ (การปรับแต่งภาพรวม)

  2. เลือก ใส่รหัส
  3. ป้อนรหัส 6 หลัก และเลือก

    คอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ของคุณดาวน์โหลดคอร์สโดยอัตโนมัติ

  4. ในวันของการปั่น เลือก เริ่มการแชร์ตำแหน่ง
  5. กด และออกไปปั่นจักรยาน

การส่งข้อความ GroupRide

คุณสามารถส่งข้อความไปยังนักปั่นคนอื่น ๆ ในระหว่างเซสชัน GroupRide

  1. จากหน้าจอข้อมูล GroupRide บนคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ของคุณ เลือก >
  2. เลือกตัวเลือก:
    • เลือกข้อความจากรายการตอบกลับที่ตั้งไว้ล่วงหน้า
    • เลือก พิมพ์ข้อความ เพื่อส่งข้อความที่กำหนดเอง

    หมายเหตุ: คุณสามารถปรับแต่งการตอบกลับข้อความที่ตั้งไว้ล่วงหน้าในการตั้งค่าอุปกรณ์ในแอป Garmin Connect หลังจากปรับแต่งการตั้งค่าแล้ว คุณต้องซิงค์ข้อมูลของคุณเพื่อนำการเปลี่ยนแปลงมาใช้กับคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ของคุณ

หมายเหตุ: คุณสามารถเลื่อนขึ้นไปยังด้านบนของหน้าจอข้อความเพื่อดูข้อความเก่าได้ รวมไปถึงข้อความใด ๆ ที่ส่งก่อนที่คุณเข้าร่วมเซสชัน GroupRide (การเข้าร่วมเซสชัน GroupRide)

สถานะแผนที่ GroupRide

ระหว่างหนึ่งการปั่น คุณสามารถเห็นนักปั่นต่าง ๆ ในเซสชัน GroupRide ของคุณบนแผนที่ได้

ข้อแนะนำ: ตัวอักษรในไอคอนแผนที่สอดคล้องกับตัวแรกของชื่อต้นของนักปั่น

ไอคอน

ขึ้นรูป

สี

เคลื่อนที่

เชื่อมต่อกับแอป Garmin Connect

วงกลม

สีขาว

ใช่

ไม่

วงกลม

สีน้ำเงิน

ใช่

ใช่

สี่เหลี่ยม

สีขาว

ไม่

ไม่

สี่เหลี่ยม

สีแดง

ไม่

ใช่

Circles

สีเทา

ที่ไม่รู้จัก

ที่ไม่รู้จัก

หมายเหตุ: เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าแผนที่ จากหน้า GroupRide เลือก

การออกเซสชัน GroupRide

เพื่อให้คอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ของคุณทำการถอดคุณออกจากแผนที่และรายการของนักปั่นคนอื่น ๆ คุณต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ใช้งานได้

คุณสามารถออกจากเซสชัน GroupRide ได้ตลอดเวลา

เลือกตัวเลือก:

  • ระหว่างการปั่น ปัดลงเพื่อดูวิจิทควบคุม และเลือก ออกจาก GroupRide
  • จากหน้า GroupRide เลือก ออกจาก GroupRide
  • กด > บันทึก เพื่อหยุดเวลากิจกรรมและเสร็จสิ้นกิจกรรม

ข้อแนะนำ: คอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ถอด GroupRideโดยอัตโนมัติเมื่อหมดเวลา (ข้อแนะนำสำหรับเซสชัน GroupRide)

ข้อแนะนำสำหรับเซสชัน GroupRide

  • ปั่นกลางแจ้งด้วยการใช้ GPS
  • จับคู่คอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ที่ใช้งานร่วมกันได้กับโทรศัพท์ของคุณโดยการใช้เทคโนโลยี Bluetooth
  • นักปั่นในกลุ่มสามารถเพิ่มเซสชัน GroupRide ลงในอุปกรณ์ของพวกเขาได้ทุกเมื่อ จากนั้นเข้าร่วมเซสชันในวันที่ปั่น เซสชันจะหมดอายุ 24 ชั่วโมงหลังจากเวลาเริ่มต้น
  • ในการแชร์รหัส GroupRide ระหว่างการปั่น ให้เลือก จากหน้าจอข้อมูล GroupRide บนคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge
  • เมื่อคุณได้รับข้อความ GroupRide คุณสามารถเลือก เพื่อปิดเสียงการแจ้งเตือนข้อความทั้งหมดสำหรับเซสชัน GroupRide นั้น
  • รายชื่อนักปั่นจะรีเฟรชทุก 15 วินาทีและแสดงรายละเอียดสำหรับนักปั่นที่ใกล้ที่สุด 25 คนภายในระยะ 40 กม. (25 ไมล์) หากต้องการดูนักปั่นเพิ่มเติมนอกระยะ 40 กม. (25 ไมล์) ให้เลือก แสดงเพิ่มเติม
  • ระหว่างการปั่น ให้ปัดลงเพื่อดูวิจิทควบคุมสำหรับตัวเลือกเพิ่มเติม
  • หยุดปั่นก่อนที่คุณจะพยายามดูข้อมูลตำแหน่งและทิศทางของนักปั่นคนอื่นในเซสชัน GroupRide (สถานะแผนที่ GroupRide)

การแชร์อีเว้นต์สด

การแชร์กิจกรรมสดทำให้คุณสามารถส่งข้อความถึงเพื่อนและครอบครัวในระหว่างกิจกรรม โดยให้ข้อมูลอัปเดตตามเวลาจริงรวมถึงเวลาสะสมและเวลารอบสุดท้าย ก่อนกิจกรรมคุณสามารถปรับแต่งรายชื่อผู้รับและเนื้อหาข้อความในแอป Garmin Connect ได้

การเปิดการแชร์อีเว้นท์สด

ก่อนคุณสามารถใช้การแชร์อีเว้นท์สด คุณต้องตั้งค่าคุณสมบัติ LiveTrack ในแอป Garmin Connect

หมายเหตุ: คุณสมบัติ LiveTrack สามารถใช้ได้เมื่ออุปกรณ์ เชื่อมต่อไปยังแอป Garmin Connect โดยใช้เทคโนโลยี Bluetooth กับโทรศัพท์ Andriod ที่รองรับ

  1. เปิดคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ของคุณ
  2. ในแอป Garmin Conncet Mobile จากเมนูการตั้งค่า เลือก > ความปลอดภัย & การติดตาม > การแชร์อีเว้นต์สด
  3. เลือก อุปกรณ์ และเลือกคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ของคุณ
  4. เลือกสวิตช์เปิดปิดเพื่อเปิดใช้งาน การแชร์อีเว้นต์สด
  5. เลือก เสร็จ
  6. เลือก ผู้รับ เพื่อเพิ่มคนจากรายการติดต่อของคุณ
  7. เลือก ตัวเลือกข้อความ เพื่อปรับแต่งตัวเลือกและการกระตุ้นข้อความ
  8. ไปข้างนอก และเลือกโปรไฟล์การปั่นจักรยาน GPS บนคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 1050 ของคุณ

การแชร์อีเว้นท์สดเปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง

ส่งข้อความถึงผู้ชม

หมายเหตุ: โทรศัพท์ที่จับคู่ของคุณต้องมีแผนข้อมูลและอยู่ในพื้นที่ที่มีเครือข่ายครอบคลุมซึ่งสามารถใช้งานข้อมูลได้ คุณสมบัติการส่งข้อความของผู้ชมช่วยให้ผู้ติดตาม LiveTrack ของคุณสามารถส่งข้อความถึงคุณระหว่างการปั่นจักรยาน คุณสามารถตั้งค่าคุณสมบัตินี้ได้ในการตั้งค่า LiveTrack ของแอป Garmin Connect

การบล็อกข้อความผู้ชม

หากคุณต้องการบล็อกข้อความจากผู้ชม Garmin แนะนำให้ปิดการใช้งานก่อนที่คุณจะเริ่มกิจกรรม

เลือก > ความปลอดภัย & การติดตาม > LiveTrack > ส่งข้อความถึงผู้ชม

การตั้งเสียงเตือนจักรยาน

คุณสามารถเปิดเสียงเตือนจักรยานเมื่อคุณอยู่ห่างจากจักรยาน เช่น ระหว่างหยุดพักในการปั่นทางไกล คุณสามารถควบคุมเสียงเตือนจักรยานได้จากอุปกรณ์ของคุณหรือในการตั้งค่าอุปกรณ์ในแอป Garmin Connect

  1. เลือก > ความปลอดภัย & การติดตาม > Bike Alarm
  2. สร้างหรืออัปเดตรหัสผ่านของคุณ

    เมื่อคุณปิดเสียงเตือนจักรยานจากอุปกรณ์ Edge คุณจะได้รับการแจ้งให้ป้อนรหัสผ่าน

  3. ปัดลงจากด้านบนของหน้าจอ และในวิจิทควบคุม ให้เลือก ตั้งค่าเสียงเตือนจักรยาน

หากอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว มันจะส่งเสียงเตือนและส่งการแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อของคุณ

การเล่นเสียงเตือนระหว่างกิจกรรม

ก่อนที่คุณจะสามารถเล่นการแจ้งเตือนเสียงบนโทรศัพท์ของคุณได้ คุณต้องมีโทรศัพท์ที่ติดตั้งแอป Garmin Connect และจับคู่กับคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge ของคุณแล้ว ในระหว่างการแจ้งเตือนเสียง โทรศัพท์จะปิดเสียงหลักเพื่อเล่นการประกาศ

คุณสามารถเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge เพื่อเล่นการประกาศสถานะเพื่อกระตุ้นระหว่างการปั่นหรือกิจกรรมอื่น ๆ การแจ้งเตือนเสียงสามารถเล่นบนอุปกรณ์หรือโทรศัพท์ของคุณ และรวมถึงหมายเลขรอบและเวลารอบ การนำทาง พลังงาน เพซ หรือความเร็ว และข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับระดับเสียงได้ตามต้องการ

  1. เลือก > ระบบ > เสียง
  2. ใช้แถบเลื่อน Voice Prompts เพื่อปรับระดับเสียง
  3. เลือก เสียงพูดขณะนำทาง
  4. เลือกตัวเลือก:
    • เพื่อเลือกตำแหน่งที่ต้องการเล่นการแจ้งเตือนเสียง ให้เลือก Audio Output
    • เพื่อเปลี่ยนภาษาหรือภาษาถิ่นของการเตือนด้วยเสียง เลือก ภาษาถิ่น

      หมายเหตุ: หากคุณตั้งค่าให้การแจ้งเตือนเสียงเล่นบนโทรศัพท์ของคุณ คุณต้องอัปเดตสำเนียงผ่านการตั้งค่าของโทรศัพท์

    • เพื่อเปลี่ยนเสียงแจ้งเตือนเป็นเสียงผู้หญิงหรือผู้ชาย เลือก เสียง
    • เพื่อฟังการแจ้งเตือนที่ช่วยให้คุณนำทางไปยังจุดหมายปลายทางของคุณ ให้เลือก การเตือนการนำทาง
    • เพื่อฟังการเตือนเมื่อคุณเริ่มและหยุดเครื่องจับเวลา รวมทั้งคุณสมบัติ Auto Pause เลือก เครื่องจับเวลากิจกรรม
    • เพื่อฟังการเตือนสำหรับแต่ละรอบ เลือก การเตือนรอบ
    • ในการได้ยินการแจ้งเตือนกิจกรรมการออกกำลังกาย โดยการแจ้งเตือนเสียง เลือก การแจ้งเตือนการออกกำลังกาย
    • ในการได้ยินการแจ้งเตือนกิจกรรมต่างๆ โดยการแจ้งเตือนเสียง เลือก การแจ้งเตือนกิจกรรม
    • ปรับแต่งการเตือนเกี่ยวกับข้อมูลพลังงาน เลือก Power Alert
    • เพื่อปรับแต่งการเตือนต่าง ๆ ด้วยข้อมูลเพซและความเร็วของคุณ เลือก การเตือนเพซ/ความเร็ว
    • เพื่อปรับแต่งการเตือนต่าง ๆ ด้วยข้อมูลอัตราการเต้นหัวใจของคุณ เลือก การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจ